ประวัติ ความเป็นมาของ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลที่มีความสำคัญมากที่สุดของชาวจีน มีการหยุดงานเป็นระยะเวลานาน และเป็นเทศกาลที่ครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
สารบัญ
เทศกาลที่คนจีนให้ความสำคัญ เทศกาลตรุษจีน
หนึ่งในเทศกาลที่ชาวจีนทุก ๆ คนต่างให้ความสำคัญ ถือว่า เป็น วันขึ้นปีใหม่จีน ตามปฏิทินจีน จะมีการหยุดงาน โรงเรียนปิดเทอม (ปิดเรียนฤดูหนาว) ในช่วงนี้ แต่ก็จะมีบางอาชีพ ที่อาจจะต้องทำหน้าที่เป็นพิเศษ ทำให้ไม่สามารถหยุดงานได้ ในวันตรุษจีนนั้นหน่วยงาน ห้างร้านต่าง ๆ จะหยุดงานประมาณ 3 – 4 วัน เพื่อเตรียมตัวในการจัดงานปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน
ในช่วงตรุษจีนจะต้องทำความสะอาดบ้าน เพื่อที่จะผ่านพ้นปีใหม่ไปได้อย่างสดใส ห้างสรรพสินค้าจะมีผู้คนมากมาย มาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับเด็ก ๆ หรือซื้อของขวัญให้กับญาติ ครอบครัว คนสนิท ซื้อบัตรอวยพรในโอกาสมงคลนี้ ตลาดจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาซื้อปลา เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็ด ไก่ ฯลฯ เป็นเทศกาลที่ทุก ๆ คนต่างก็มีความสุข เด็ก ๆ ได้สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ได้ทานขนมหวาน ลูกกวาด จุดพลุ เล่นประทัดกันอย่างสนุกสนาน คนไทยเชื้อสายจีน จะปฏิบัติ 3 วัน คือ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ดังนี้
วันจ่าย ปีนี้ตรงกับวันที่ 20 มกราคม 2566
คือ วันก่อนสิ้นปี เป็นวันที่ต้องออกไปซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ก่อนที่หลาย ๆ ร้านค้าจะปิดร้าน เพื่อหยุดพักผ่อนยาว ไม่จำเป็นต้องมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ ให้ลงมาเพื่อรับการสักการบูชา หลังจากที่ได้ทำการไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์ไปเมื่อ 4 วันที่แล้ว จะส่งแค่เจ้าซิ้ง หรือเจ้าเตา
วันไหว้เจ้า ตรงกับวันที่ 21 มกราคม 2566
- ตอนเช้ามืด ไหว้ป้ายเล่าเอี๊ย (拜老爺 / 拜老爷)
จะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ โดยจะมีเครื่องไหว้ คือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ซำเช้ง) ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรืออาจจะมีการเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ทั้ง 5 ก็ได้ (โหงวแซ) และมีเหล้า น้ำชา กระดาษเงิน กระดาษทอง
- ตอนสาย ไหว้ป้ายแป๋บ้อ (拜父母)
การไหว้บรรพบุรุษ ญาติพี่น้องที่ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความคิดถึง ความกตัญญูตามความเชื่อของชาวจีน การไหว้จะไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบไปด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ของที่ผู้ล่วงลับชอบทาน) รวมมั้งการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ เพื่ออุทิศให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ จากนั้นญาติพี่น้องจะมารับประทานอาหารด้วยกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล และถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันมากที่สุด และจะมีการแจกอั้งเปา หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ
- ตอนบ่าย ไหว้ป้ายฮ่อเฮียตี๋ (拜好兄弟)
จะเป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ได้ล่วงลับไปแล้ว จะไหว้ด้วย ขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อน้ำตาล กระดาษเงิน กระดาษทอง พร้อมทั้งจุดประทัด เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดีให้ออกไป เพื่อความเป็นสิริมงคล
วันเที่ยว ตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2566
วันเที่ยว หรือวันถือ เป็นวันขึ้นปีใหม่ ชิวอิก ของเดือนแรกของปี เป็นวันที่ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่มีการปฏิบัติสืบทอดกันมา คือ ป้ายเจีย หารไหว้ขอพร และอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ และคนที่เราเคารพรัก จะมีการนำส้มสีทองไปมอบให้ 4 ลูก เพราะส้มออกเสียงในภาษาแต้จิ๋วว่า กิก (橘) พ้องเสียงกับคำว่า ความสุข โชคลาภ หรือภาษาฮกเกี้ยน และกวางตุ้ง ก้าม (柑) ที่พ้องกับคำว่า ทอง การให้ส้มจึงเหมือนกับการมอบความสุข โชคลาภ
จะมอบส้ม 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า เป็นวันที่ชาวจีนถือว่ามีความเป็นสิริมงคล ห้ามทำบาป หรือพูดคำหยาบ จะมีการถือคติบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดี ไม่ทวงหนี้ ห้ามกวาดบ้าน และต้องแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ออกไปเยี่ยม อวยพร และไปพักผ่อนนอกบ้าน
ความเป็นมาของวันตรุษจีน
เป็นวันปีใหม่ประวัติการฉลองตรุษจีน มีมานานกว่าศตวรรษ (100 ปี) มีความเป็นมาที่ยาวนาน จนไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปดูว่าเริ่มมีการเฉลิมฉลองเมื่อไหร่ วันตรุษจีนเป็นที่รู้จักทั่วไปว่า ฉลองเทศกาลฤดูใบ้ไม้ผลิ และฉลองนานกว่า 15 วัน การเตรียมงานฉลอง จะเริ่ม 1 เดือนก่อนวันตรุษจีน
ผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ สิ่งของต่าง ๆ เพื่อตกแต่งบ้านเรือน อาหารต่าง ๆ และเสื้อผ้า มีการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ก่อนวันตรุษจีน จะทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่าง หน้าบ้านยันท้ายบ้าน เป็นการกวาดเอาความโชคร้ายออกไป ประตูหน้าต่างจะขัดสี ทาสีใหม่ นิยมทาเป็นสีแดง ประตู และหน้าต่างจะถูกประดับตกแต่งไปด้วยกระดาษ ที่จะมีการเขียนคำอวยพร เช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย อายุยืน เป็นต้น
ตรุษจีนเกิดจากการตั้งใจที่จะ ฉลองฤดูใบไม้ผลิ ก่อนเทศกาลตรุษจีน จะถูกผกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ก็สามารถกลับมาทำการเพาะปลูกได้ตามปกติ ชาวจีนจึงได้ถือว่า วันแรกของฤดูใบไม้ผลิเป็นวันสำคัญ เรียกว่า ตรุษจีน
อาหารไหว้เจ้าวันตรุษจีน
ในการฉลองอาหารถูกรับประทานมากที่สุด อาหารชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ไหว้เจ้าปฏิบัติสืบทอดกันมา อาหารถูกจัดเตรียมเพื่อพี่น้อง ญาติ เพื่อนฝูง คนรู้จักที่ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ในวันตรุษจีนครอบครัวจะกินผักที่เรียกว่า ไช่ แม้ว่าผักชนิดต่าง ๆ ที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงราก หรือผัดที่มีลักษณะคล้ายเส้นใย ก็มีความเชื่อว่า ผักต่าง ๆ นั้นมีความหมายที่เป็นมงคลในตัวของมัน
- เม็ดบัว : การมีลูกหลาน ที่เป็นเพศชาย
- เกาลัด : เงิน
- สาหร่ายดำ : จะออกเสียงที่คล้ายกับคำว่า ร่ำรวย
- เต้าหู้หมัก ที่ทำจากถั่วแห้ง : ออกเสียงคล้ายกับ เต็มไปด้วยความร่ำรวย ความสุข
- หน่อไม้ : ออกเสียงคล้ายกับ คำอวยพร ที่ขอให้เต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำมาจากถั่วสดนั้น จะไม่นำมารวมกับอาหารวันนี้ เพราะมีสีขาว เป็นสีแห่งความโชคร้าย และหมายถึงการไว้ทุกข์
- หน่อไม้ : ออกเสียงคล้ายกับคำว่า เต็มไปด้วยความสุข
- ปลาทั้งตัว : ตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดมสมบูรณ์
- ไก่ : ความเจริญก้าวหน้า ไก่จะต้องมีทั้งหัว ขา เครื่องในอยู่ครบทุกส่วน จะแสดงถึงความสมบูรณ์
- เส้นหมี่ : ต้องเป็นเส้นหมี่ที่ยังไม่ได้ตัด จะมีความหมายว่า อายุยืนยาว
เทศกาลตรุษจีนก็มีความคล้าย ๆ กับวันสงกรานต์ของบ้านเราเหมือนกัน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ที่มีความเชื่อในการปฏิบัติต่าง ๆ ว่าจะทำให้โชคดี เมื่อโชคดีแล้ว ลองเข้ามารับโชคเพิ่มกับเรากันนะคะ มีเกมมากมายให้คุณได้เลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็น คาสิโน บาคาร่า รูเล็ต ไฮโล กำถั่ว เสือมังกร สล็อตออนไลน์ เกมยิงปลา แทงหวย และอื่น ๆ อีกมากมาย